GPS ประเภทที่ 2 (TWO WAY) คืออะไร และทำไมหลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคต
GPS ประเภทที่ 2 หรือ Two Way GPS คือระบบติดตามยานพาหนะที่มีความสามารถมากกว่าการส่งตำแหน่งไปยังกรมการขนส่งทางบก (DLT) เพียงอย่างเดียว แต่เป็นระบบควบคุมพฤติกรรมการขับขี่เชิงรุกที่สามารถสั่งงาน แจ้งเตือน และควบคุมความเสี่ยงได้แบบเรียลไทม์ นี่คือเหตุผลที่ GPS ประเภทนี้ถูกกำหนดให้บังคับใช้กับรถบางประเภท และจะมีการขยายขอบเขตการใช้งานมากขึ้นในอนาคต
ความแตกต่างระหว่าง GPS ประเภทที่ 1 และ ประเภทที่ 2
GPS ประเภทที่ 1 (One Way) ทำหน้าที่ส่งข้อมูลตำแหน่งไปยัง DLT เพื่อใช้ในการติดตามย้อนหลัง โดยไม่มีการแจ้งเตือนพฤติกรรมผู้ขับขี่เชิงควบคุม
GPS ประเภทที่ 2 (Two Way) มีความสามารถในการรับและส่งข้อมูลสองทาง สามารถแจ้งเตือนผู้ขับขี่ได้ทันทีผ่านอุปกรณ์ และช่วยป้องกันอุบัติเหตุก่อนที่จะเกิดขึ้น ไม่ใช่แค่การดูข้อมูลย้อนหลัง ซึ่งไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเพียงแค่ดูตำแหน่งรถ แต่เป็นเครื่องมือในการควบคุมความเสี่ยงและรักษาความปลอดภัยของชีวิตบนท้องถนน
ฟังก์ชันหลักของ GPS ประเภทที่ 2 ที่ถูกกำหนดให้ใช้งาน
1. การแจ้งเตือนด้วยเสียงเมื่อเข้าสู่พื้นที่เสี่ยง
ระบบจะส่งเสียงเตือนอัตโนมัติไปยังผู้ขับขี่ทันทีเมื่อรถเข้าสู่พื้นที่เสี่ยงที่กรมการขนส่งกำหนด ได้แก่ ทางชัน ทางโค้งต่อเนื่อง ไหล่เขา และเส้นทางที่มีสถิติอุบัติเหตุซ้ำซาก ตัวอย่างข้อความเตือน เช่น “คุณกำลังเข้าพื้นที่เสี่ยง” หรือ “คุณอยู่ในเส้นทางเสี่ยง โปรดใช้ความระมัดระวัง”
2. การแจ้งเตือนเมื่อขับรถต่อเนื่องเกิน 4 ชั่วโมง
ระบบตรวจจับระยะเวลาการขับขี่ต่อเนื่องของผู้ขับรถ และจะแจ้งเตือนทันทีหากขับเกินเวลาที่กำหนด ด้วยข้อความเช่น “คุณขับรถเกินเวลาที่กำหนด กรุณาหยุดพัก” ฟังก์ชันนี้ออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยงจากความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุรุนแรง
3. การแจ้งเตือนเมื่อขับเร็วเกินกำหนด
GPS ประเภทที่ 2 จะเชื่อมโยงความเร็วของรถกับเงื่อนไขพื้นที่และประเภทเส้นทาง ระบบไม่เพียงบันทึกความเร็ว แต่จะเตือนทันทีขณะที่เกิดพฤติกรรมเสี่ยง ด้วยข้อความเช่น “คุณขับเร็วเกินกำหนด” หรือ “โปรดลดความเร็วในเขตเสี่ยง”
พื้นที่เสี่ยงที่ระบบใช้แจ้งเตือน
ระบบจะตั้งค่าแจ้งเตือนอัตโนมัติในเส้นทางสำคัญที่มีสถิติอุบัติเหตุสูงและภูมิประเทศเสี่ยง เช่น แม่ยางฮ่อ-แม่ตีบ, เชียงใหม่-ดอยนางแก้ว, ปัว-อุทยานแห่งชาติดอยภูคา, บ่อโพธิ์-โคกงาม, โจ๊ะโหวะ-อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า, สี่แยกกบินทร์บุรี-วังน้ำเขียว, และเขาพับผ้า-พัทลุง การแจ้งเตือนล่วงหน้าในพื้นที่เหล่านี้ช่วยลดอุบัติเหตุได้จริง ไม่ใช่เพียงแค่ในทางทฤษฎี
รูปแบบการแจ้งเตือน
ระบบรองรับการแจ้งเตือนหลายระดับเพื่อให้ผู้ขับขี่รับทราบก่อนเกิดความเสี่ยง ได้แก่:
-
- คุณกำลังเข้าพื้นที่เสี่ยง
- คุณอยู่ในเส้นทางเสี่ยง
- คุณขับรถเกินเวลาที่กำหนด
- คุณขับรถเร็วเกินกำหนด
ทั้งหมดเป็นการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ผ่านอุปกรณ์ GPS โดยตรง ไม่ต้องรอให้เกิดเหตุแล้วค่อยเปิดรายงานย้อนหลัง
ใครบ้างที่ควรเตรียมอัปเกรดเป็น GPS ประเภทที่ 2
กลุ่มที่ควรเตรียมพร้อมได้แก่ รถที่จดทะเบียนใหม่, รถที่เปลี่ยนเครื่อง GPS, รถขนส่งและรถโดยสารตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงธุรกิจที่ต้องการลดอุบัติเหตุ ลดความเสี่ยง และลดภาระความรับผิด การที่ยังใช้ GPS ประเภทที่ 1 ได้อยู่ในปัจจุบัน ไม่ได้หมายความว่าจะเพียงพอสำหรับอนาคต
สรุป: การยกระดับความปลอดภัย ไม่ใช่แค่ข้อบังคับ
GPS ประเภทที่ 2 ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มภาระให้กับผู้ประกอบการ แต่เป็นเครื่องมือในการลดความสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้น MonoGPS ยึดมั่นในหลักการพิสูจน์ด้วยผลงานจริงจากการใช้งานบนถนนจริงและสถานการณ์จริง ไม่ใช่เพียงแค่คำโฆษณา หากคุณต้องการประเมินว่ารถของคุณเข้าข่ายต้องใช้ GPS ประเภทที่ 2 หรือควรอัปเกรดเมื่อใด การวางแผนล่วงหน้าจะช่วยลดทั้งต้นทุนและความเสี่ยงได้มากกว่าการรอให้ถูกบังคับ

